LED แตกต่างกับ OED อย่างไร และ AMD , AME คืออะไร
1.LED แตกต่างกับ OED อย่างไร และ AMD , AME คืออะไร
จอภาพแบบ LED
จอ LED ก็ คือ การแสดงแสงที่สว่างสดใสมากกว่า มีความคมชัดมากกว่า ทำงานเร็วและประหยัดไฟมากกว่า น้ำหนักเบากว่า สามารถมองจากมุมมองด้านต่างๆได้ทั้งสี่ด้านของจอ แม้ว่าจะมองมุมไหน ก็ยังสามารถเห็นภาพที่คมชัดและสมจริงได้อยู่ดีนั่นเอง
แอลอีดี (LED)
สำหรับจอแอลอีดีที่จำหน่ายกันอยู่เวลานี้ เรียกว่าอยู่ในกระแสที่คนกำลังให้ความสนใจกันไม่น้อยทีเดียว แท้จริงแล้วมีนก็คือจอภาพแบบแอลซีดีที่เราใช้กันอยู่ เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนการทำงานภายใน งานนี้ต้องนึกไปถึงการทำงานของจอแอลซีดีกันเล็กน้อย โดยโครงการสร้างภาพของแอลซีดีจะใช้การเปลี่ยนแปลงของเหลวที่อยู่ภายใน ซึ่งทำปฏิกิริยาแบบผกผันลันกับอุณหภูมิซึ่งไม่ควนเอาโน้ตบุ๊กไว้ในรถนะครับ แล้วใช้การยิงลำแสงผ่านจากด้านหลังพาแนลที่เรียกกันว่าแบ็กไลต์ (Backlit เป็นคนละแบบกับแสงแบ็กไลต์ที่จสะท้อนแสงในที่มืด) ซึ่งเป็นสีขาวโดยใช้หลอดฟลูออเรศเซนแบบเย็น (CCFL : Clod Cathohe) ทำให้เกิดขึ้นมาเป็นภาพที่ตาเราสองเห็นได้ แท้จริงแล้วก็เหมือนเราดู “เงา” ของผลึกเหลวในขณะทำงาน เพราะจอภาพแอลซีดีไม่สามารถกำเนิดแสงได้ด้วยตนเองจึงต้องใช้การยิงแสงแบ็กไลต์(Backlit) นั้นเอง ซึ่งตรงจุดนี้ล่ะแบ็กไลต์จากเดิมซึ่งใช้เป็นหลอดไฟฟลูออเรสเซนแบบเย็น (CCFL : Clod Cathohe) มาใช้เป็นหลอดแอลอีดีแทน และยังเป็นการใช้หลอดแอลอีดีถึงสามสีประกอบด้วยแม่สี แดง เขียว น้ำเงิน (RGB)
จอภาพแบบ OED
จอ OED screen มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5 นิ้ว และความละเอียดที่ 960×544 pixel มีระบบ sixaxis มีกล้องหน้าหลัง จอแบบสัมผัส และรองรับระบบ 3G
AMD
AMD เป็นบริษัทผู้ผลิตไมโครโพรเซสเซอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใหญ่เป็น อันดับที่สองต่อจาก Intel พวกเขาทำ flash memory ที่เป็นแผงวงจรรวมสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายด้วย และอุปกรณ์ตรรกะทางโปรแกรม AMD รายงานว่าได้มีการขายไมโครโพรเซสเซอร์ x86 (สอดคล้องกับ Windows) 100 ล้าน ไมโครโพรเซสเซอร์ Athon (เดิมเรียกว่า “K7”) ส่งมอบในกลางปี 1999 เป็นการสนับสนุนแรกที่บัส 200 MHz ในเดือนมีนาคม 2000 AMD ประกาศ ไมโครโพรเซสเซอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 1 gigahertz แรกในเวอร์ชันของ Athlon
AMD ที่ก่อตั้งในปี 1969 ตลอดจนถึง Cyrix ได้เสนอไมโครโพรเซสเซอร์ทางเลือกราคาต่ำกว่า Intel ให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ AMD พัฒนาและผลิตโพรเซสเซอร์และผลิตภัณฑ์อื่นใน Sunnyvale, California และ Austin, Texas โรงงานผลิตใหม่เปิดใน Dresden, Germany ในปี 1999
ไมโครโพรเซสเซอร์ราคาต่ำของ AMD ได้เป็นผู้ช่วยให้ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลราคาต่ำลงในปี 1998 – 2000 โดยทั่วไป นักทบทวนให้อัตรา K6 และ Athlon ใกล้หรือดีกว่าเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับไมโครโพรเซสเซอร์จาก Intel นอกจากนี้ “บัสระบบ 200 MHz กระแสหลักแรก” Athlon รวม pipelining floating point unit ขนาดใหญ่และ L1 และ L2 ที่โปรแกรมได้ Athlon ใช้เทคโนโลยีอลูมิเนียม 0.18 micron ของ AMD
AME
Active Memory Expansion (AME) คือเทคโนโลยีใหม่สำหรับการขยาย ความจุหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพของระบบ AME ใช้ เทคโนโลยีการบีบอัดหน่วยความจำ เพื่อบีบอัดข้อมูลในหน่วยความจำอย่างโปร่งใส เพื่อให้สามารถวางข้อมูล ในหน่วยความจำได้มากขึ้น ส่งผลให้ขยายความจุหน่วยความจำของ ระบบที่ตั้งค่าคอนฟิก
Active Memory Expansion (AME) ขึ้น อยู่กับการบีบอัดของข้อมูลในหน่วยความจำเพื่อเพิ่มจำนวนของข้อมูลที่สามารถ เก็บหน่วยความจำ และขยายประสิทธิภาพของความจุของหน่วยความจำของระบบ POWER7 ที่ ใช้ตัวประมวลผล การบีบอัดข้อมูลในหน่วยความจำ อยู่ภายใต้การจัดการโดยระบบปฏิบัติการ และการบีบอัดนี้โปร่งใสสำหรับ แอ็พพลิเคชันและผู้ใช้ AME สามารถตั้งค่าคอนฟิกได้สำหรับแต่ละโลจิคัลพาร์ติชัน (LPAR) ดังนั้น จึงสามารถเลือกเปิดใช้งาน AME สำหรับหนึ่งหรือหลาย LPARs บนระบบได้
เมื่อเปิดใช้งาน Active Memory Expansion สำหรับ LPAR ระบบปฏิบัติการจะบีบอัดส่วนของหน่วยความจำของ LPAR และ ปล่อยหน่วยความจำส่วนที่เหลือไว้เป็นแบบไม่บีบอัด การทำเช่นนี้ ส่งผลให้หน่วยความจำถูกแบ่งออกเป็นสองพูลอย่างมีประสิทธิภาพ สองพูลคือ:
· พูลที่บีบอัด
· พูลที่ไม่บีบอัด
ระบบปฏิบัติการจะบีบอัดหน่วยความจำในจำนวนที่แตกต่างกันไป ไม่แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวิร์กโหลดและการตั้งค่าคอนฟิกของ LPAR
2. icor 3 5 7 คืออะไร
Inte lCore เป็นชื่อแบรนด์ที่อินเทลใช้สำหรับช่วงกลางเดือนต่างๆระดับไฮเอนด์ผู้บริโภคและธุรกิจไมโครโปรเซสเซอร์ โดยทั่วไปโปรเซสเซอร์ขายเป็นหลักเป็นสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการประมวลผลเดียวกันตลาดเป็นรายการระดับ Celeron และ Pentium . ในทำนองเดียวกันรุ่นเหมือนกันหรือความสามารถมากขึ้นในการประมวลผลหลักจะขายยังเป็น Xeonโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชั่นตลาดเป็นของปี 2013 ผู้เล่นตัวจริงในปัจจุบันของตัวประมวลผลหลักรวมถึง Intel Core i7 รุ่นล่าสุดของอินเทล Core i5, และ Intel Core i3 และเก่า Intel Core 2 Solo, Intel Core 2 Duo ของ Intel Core 2 Quad และ Intel Core 2 สายเอ็กซ์ตรีม
ความแตกต่างของซีพียู
หลายคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่อาจจะต้องหยุดคิด พิจารณาสักนิดหนึ่งก่อนนะครับ ตามความคิดเห็นของผมนั้น หากคุณต้องการที่จะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ในช่วงนี้ ผมอยากให้
คุณมองถึง CPU รุ่นนี้ พร้อมทั้ง Mainbord,Ram ที่เข้ากับ CPU รุ่นนี้ได้
คำถามต่อมา คุณอาจจะสงสัยว่า แล้ว i3, i5 และ i7 นี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ผมจึงขอนำตารางที่สแกนมาจากโบชัวร์ของบริษัท Intel มาให้คุณได้ลองดูไปด้วยกันเลยครับ (ถ้าไม่นับถึงความเร็วของซีพียูนะครับ ใครจะทำซีพียูแพงๆ ความเร็วเท่ากับซีพียูราคาที่ต่ำกว่าล่ะครับ)
สังเกตเส้นสีแดงที่ผมตีกรอบไว้นะครับ ทั้งสามรุ่นนี้ใช้ Socket เดียวกันคือ 1156 ครับ 1. ระบบ Hyper-Threading สิ่งที่ CPU ตระกูลนี้นำกลับเข้ามาใช้ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ระบบ Hyper-Threading (ระบบการจำลองชุดคำสั่งแบบคู่ขนาน) ซึ่ง intel เคยนำมาใช้ตอน Pentium 4 ครับโดย
i7 จะมี 4 คอร์ 8 เธรด
i5 จะมี 4 คอร์ 4 เธรด และ 2 คอร์ 4 เธรด
i3 จะมี 2 คอร์ 4 เธรด 2. Cache L3 ระบบ Cache L3 เป็นระบบที่ทำ AMD นำมาใช้ก่อนในซีพียูรุ่นก่อนแล้ว ซึ่ง intel เพิ่งจะนำเข้ามาใช้กับซีพียูตระกูลนี้ครับ i7 จะมี Cache L3 8 MB
i5 จะมี Cache L3 8 MB และ 4 MB
i3 จะมี Cache L3 4 MB 3. ราคา ซึ่งทาง intel ได้วางตำแหน่งของซีพียูตระกูลนี้ไว้ 3 ระดับด้วยกัน i7 เป็นซีพียูในระดับสูง ราคาจะอยู่ในช่วง 10,000 บาท ขึ้นไป
i5 เป็นซีพียูใน ระดับกลาง ราคาจะอยู่ในช่วง 6,000 – 7,000 บาท
i3 เป็นซีพียูใน ระดับพื้นฐาน ราคาจะอยู่ในช่วง 4,000 – 5,000 บาท
3. HANDY DRIVE , THUMB DRIVE , FLASH DRIVE
Handy drive
แฮนดี้ไดรฟ์ (Handy drive)หรืออีกหลายๆชื่อที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ เช่น แฟลชไดรฟ์ (Flash drive) ธัมบ์ไดรฟ์ (Thumb Drive) แฮนดี้ไดรฟ์ นั้น ตอนนี้ได้กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูลที่ต้องพกติดตัว บางคนอาจมีมากกว่าหนึ่งตัวและพกจนกลายเป็นหลวงพ่อ(สารพัดไดร์ฟ)ไปแล้วก็มี ด้วยการใช้งานที่สุดแสนจะสะดวกสบาย บวกกับขนาดอันแสนกะทัดรัด น่าพกพา จึงทำให้เจ้าอุปกรณ์เก็บข้อมูลตัวจิ๋วนี้กลายเป็นขวัญใจของคนไอทีไปโดย ปริยาย
แฮนดี้ไดรฟ์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1998 โดยนาย Dov Moran ประธานบริษัท M-Systems Flash Pioneer ประเทศอิสราเอล โดยแฮนดี้ไดรฟ์ตัวแรกมีชื่อรุ่นว่า Disgo มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 8 16 32 และ 64 เมกะไบต์ ซึ่งแต่แรกเรารู้จักอุปกรณ์ชิ้นนี้ในชื่อชองธัมป์ไดรฟ์ (Thumb Drive) เนื่องจากลักษณะของมันเหมือนกับนิ้วโป้ง แต่ต่อมาก็มีการเรียกชื่อเปลี่ยนกันไปบ้าง เช่น Flash drive เพราะ ชิปที่ใช้เก็บข้อมูลข้างในเป็น Flash Memory ส่วนแฮนดี้ไดรฟ์ Handy drive ได้ชื่อมาจากขนาดตัวที่เล็ก พกพาสะดวก
Thumb drive
เป็น thumbdrive lockbox ดิจิตอลของคุณการจัดเก็บระเบียนส่วนบุคคลของคุณภาพถ่ายดิจิตอลและเพลง ลองนึกภาพฟลอปปี้ไดรฟ์ USB และดิสก์แบบบูรณาการโดยเฉพาะความปลอดภัยมากขึ้นและคงทนมากขึ้นและที่น้อย กว่าหนึ่งในสิบในขนาดทางกายภาพที่บรรจุได้ถึง 350 ครั้งในความสามารถ เพราะ thumbdrive ไม่ได้มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวใด ๆ เป็นอย่างมากทนต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกthumbdrive ทำหน้าที่เช่นเดียวกับฮาร์ดไดรฟ์ของคุณ คุณสามารถลากและวางไฟล์ลงบนมัน, สร้าง, แก้ไข, ลบไฟล์แม้กระทั่งการจัดรูปแบบมัน Thumb drive คือชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของ USB Flash drive มีความหมายเช่นเดียวกับชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น Handy drive, Jet drive คือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว แต่มีความจุสูง สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากตั้งแต่ 128 MB ถึง 8 GB และขนาดความจุข้อมูลก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Flash Drive
Flash Drive (หรือที่หลายคนเรียก Handy Drive, Thumb Drive, USB Drive)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว แต่ในขณะเดียวกันมีความจุสูง สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากตั้งแต่ 128 MB ถึง 4 GBและขนาดความจุข้อมูลก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Flash Drive เป็นอุปกรณ์นวัตกรรม IT ที่ในอนาคตทุกคนจะต้องมีและใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และมีประโยชน์ที่สำคัญที่สุดคือ:
• ความจุข้อมูลสูง ตั้งแต่ 128 MB ถึง 4 GB
• ใช้เก็บข้อมูลได้ทุกประเภท ทั้งไฟล์ข้อมูล, เอกสาร, พรีเซ็นเตชั่นสไลด์, เพลง MP3, รูปภาพดิจิตอล, วีดีโอ, และอื่นๆ
• สามารถใช้ได้ทันทีกับคอมพิวเตอร์และโน็ตบุ๊ค ทุกเครื่องทุกระบบ
• สามารถใช้ได้กับ Windows, Linux, Apple iMac, Apple iBook
• สะดวกในการใช้งาน เพียงแค่เสียบ Flash Drive เข้าช่องต่อ USB
• ใช้งานง่าย คุณสามารถทำการเขียน/อ่าน/ลบ/แก้ไข ข้อมูลในนั้นได้โดยตรงเหมือนกับฮาร์ดดิสไดร์ฟ ปกติ
• มีความทนทานสูง ทั้งภายในและภายนอก
• เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สร้างจากเทคโนโลยีที่มีความทนทานสูงที่สุดในปัจจุบัน Solid-State Storage Technology
• เวลาใช้งาน ข้อมูลของคุณจะปลอดภัยไม่ว่าจะเกิดการตกหล่น กระแทก หรือขูดขีด
• มีขนาดเล็ก บาง เบา สามารถพกติดตัวได้สะดวก
• ใช้เล่นเพลง MP3 ได้ (เฉพาะรุ่นที่มี MP3 Player)
4. Multitasking
Multitasking คือ ระบบปฏิบัติการที่มีการรองรับการใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมพร้อมกัน โดยจะทำการแบ่งเวลาการใช้งานของหน่วยงานของหน่วยประมวลผลกลางของแต่ละโปรแกรม ทำให้สามารถทำงานไปพร้อมกันได้ สามารถแยกออกได้เป็น
Cooperative Multitasking เป็นระบบที่แต่ละโปรแกรมสามารถขอใช้งานหน่วยประมวลผลกลางนานเท่าใดก็ได้ จนกว่าจะเห็นสมควรให้โปรแกรมอื่นใช้งานต่อ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาโปรแกรมยึดครองหน่วยประมวลผลกลางโดยไม่ยอมปล่อยให้โปรแกรมอื่นทำงาน
Preemptive Multitasking ระบบปฏิบัติการจะควบคุมการทำงานของหน่วยประมวลผลกลางโดยตรง การทำงานของแต่ละโปรแกรมจะแบ่งเวลาการทำงานให้แต่ละโปรแกรมตามความเหมาะสม
วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557
องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศมีอะไรบ้าง พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอาจกล่าวได้ว่าประกอบขึ้นจากเทคโนโลยีสองสาขาหลักคือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม สำหรับรายละเอียดพอสังเขปของแต่ละเทคโนโลยีมีดังต่อไปนี้คือ
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้ คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า ซอฟต์แวร์ (Software)
ฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ
· อุปกรณ์รับข้อมูล (Input) เช่น แผงแป้นอักขระ (Keyboard), เมาส์, เครื่องตรวจกวาดภาพ (Scanner), จอภาพสัมผัส (Touch Screen), ปากกาแสง (Light Pen), เครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก (Magnetic Strip Reader), และเครื่องอ่านรหัสแท่ง (Bar Code Reader)
· อุปกรณ์ส่งข้อมูล (Output) เช่น จอภาพ (Monitor), เครื่องพิมพ์ (Printer), และเทอร์มินัล
· หน่วยประมวลผลกลาง จะทำงานร่วมกับหน่วยความจำหลักในขณะคำนวณหรือประมวลผล โดยปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยการดึงข้อมูลและคำสั่งที่เก็บไว้ไว้ในหน่วยความจำหลักมาประมวลผล
· หน่วยความจำหลัก มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์รับข้อมูลเพื่อใช้ในการคำนวณ และผลลัพธ์ของการคำนวณก่อนที่จะส่งไปยังอุปกรณ์ส่งข้อมูล รวมทั้งการเก็บคำสั่งขณะกำลังประมวลผล
· หน่วยความจำสำรอง ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมขณะยังไม่ได้ใช้งาน เพื่อการใช้ในอนาคต
ซอฟต์แวร์ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นมากในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
ซอฟต์แวร์ระบบ มีหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ระบบสามารถแบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ
1. โปรแกรมระบบปฏิบัติการ ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วงต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโปรแกรมที่นิยมใช้กัน ในปัจจุบัน เช่น UNIX, DOS, Microsoft Windows
2. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ใช้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในระหว่างการประมวลผลข้อมูลหรือในระหว่างที่ใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโปรแกรมที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น โปรแกรมเอดิเตอร์ (Editor)
3. โปรแกรมแปลภาษา ใช้ในการแปลความหมายของคำสั่งที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ และทำงานตามที่ ผู้ใช้ต้องการ
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อทำงานเฉพาะด้านตามความต้องการ ซึ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์นี้สามารถแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
1. ซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่องานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานทั่วไปไม่เจาะจงประเภทของธุรกิจ ตัวอย่าง เช่น Word Processing, Spreadsheet, Database Management เป็นต้น
2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจเฉพาะ ตามแต่วัตถุประสงค์ของการนำไปใช้
3. ซอฟต์แวร์ประยุกต์อื่น ๆ เป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง และอื่น ๆ นอกเหนือจากซอฟต์แวร์ประยุกต์สองชนิดข้างต้น ตัวอย่าง เช่น Hypertext, Personal Information Management และซอฟต์แวร์เกมต่าง ๆ เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ระบบ มีหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ระบบสามารถแบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ
1. โปรแกรมระบบปฏิบัติการ ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วงต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโปรแกรมที่นิยมใช้กัน ในปัจจุบัน เช่น UNIX, DOS, Microsoft Windows
2. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ใช้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในระหว่างการประมวลผลข้อมูลหรือในระหว่างที่ใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโปรแกรมที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น โปรแกรมเอดิเตอร์ (Editor)
3. โปรแกรมแปลภาษา ใช้ในการแปลความหมายของคำสั่งที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ และทำงานตามที่ ผู้ใช้ต้องการ
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อทำงานเฉพาะด้านตามความต้องการ ซึ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์นี้สามารถแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
1. ซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่องานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานทั่วไปไม่เจาะจงประเภทของธุรกิจ ตัวอย่าง เช่น Word Processing, Spreadsheet, Database Management เป็นต้น
2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจเฉพาะ ตามแต่วัตถุประสงค์ของการนำไปใช้
3. ซอฟต์แวร์ประยุกต์อื่น ๆ เป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง และอื่น ๆ นอกเหนือจากซอฟต์แวร์ประยุกต์สองชนิดข้างต้น ตัวอย่าง เช่น Hypertext, Personal Information Management และซอฟต์แวร์เกมต่าง ๆ เป็นต้น
2. เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ใช้ในการติดต่อสื่อสารรับ/ส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกัน ซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และทันการณ์ ซึ่งรูปแบบของข้อมูลที่รับ/ส่งอาจเป็นตัวเลข (Numeric Data) ตัวอักษร (Text) ภาพ (Image) และเสียง (Voice)
เทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารหรือเผยแพร่สารสนเทศ ได้แก่ เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมทั้งชนิดมีสายและไร้สาย เช่น ระบบโทรศัพท์, โมเด็ม, แฟกซ์, โทรเลข, วิทยุกระจายเสียง, วิทยุโทรทัศน์ เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง คลื่นไมโครเวฟ และดาวเทียม เป็นต้น
สำหรับกลไกหลักของการสื่อสารโทรคมนาคมมีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ ต้นแหล่งของข้อความ (Source/Sender), สื่อกลางสำหรับการรับ/ส่งข้อความ (Medium), และส่วนรับข้อความ (Sink/Decoder)
นอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ ดังนี้ต่อไปนี้ คือ
1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ, กล้องดิจิทัล, กล้องถ่ายวีดีทัศน์, เครื่องเอกซเรย์ ฯลฯ
2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล จะเป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น เทปแม่เหล็ก, จานแม่เหล็ก, จานแสงหรือจานเลเซอร์, บัตรเอทีเอ็ม ฯลฯ
3. เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์, จอภาพ, พลอตเตอร์ ฯลฯ
5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องถ่ายไมโครฟิล์ม
6. เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์, วิทยุกระจายเสียง, โทรเลข, เทเล็กซ์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะใกล้และไกล
นอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ ดังนี้ต่อไปนี้ คือ
1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ, กล้องดิจิทัล, กล้องถ่ายวีดีทัศน์, เครื่องเอกซเรย์ ฯลฯ
2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล จะเป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น เทปแม่เหล็ก, จานแม่เหล็ก, จานแสงหรือจานเลเซอร์, บัตรเอทีเอ็ม ฯลฯ
3. เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์, จอภาพ, พลอตเตอร์ ฯลฯ
5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องถ่ายไมโครฟิล์ม
6. เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์, วิทยุกระจายเสียง, โทรเลข, เทเล็กซ์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะใกล้และไกล
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ เป็นระบบที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร ระบบสารสนเทศประกอบด้วย
รูปที่ 1.4 ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
1.2.1 ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น คีย์บอร์ด (keyboard) เมาส์ (mouse) จอภาพ (monitor) จอภาพสัมผัส (touch screen) ปากกาแสง (light pen) เครื่องอ่านรหัสแท่ง (barcode reader) เครื่องพิมพ์ (printer) ฮาร์ดดิสก์ (hard disk) รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเสื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น โมเด็ม (modem) และสายสัญญาณ
1.2.2 ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่ง ( instruction ) ที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่งของผู้ใช้ โดยทั่วไปโปรแกรม หรือชุดคำสั่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่คือ
รูป 1.5หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ
- ซอฟต์แวร์ระบบ ( system software ) หมายถึง ชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ และทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ระบบแบ่งออกเป็น
1) ระบบปฏิบัติการ(Operating System: OS) เป็นซอฟต์แวร์ที่หน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังรูปที่ 1.5 โดยจะทำหน้าที่ดูแลและจัดหาให้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ ตัวอย่างระบบปฏิบัติการ เช่น วินโดวส์ (windows) ลินุกซ์ (Linux) และแมคโอเอส (mac OS) ดังรูปที่ 1.6
2) โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilities program) เป็นโปรแกรมที่ช่วยเสริมการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรือช่วยโปรแกรมใช้งานอื่นๆ ให้มีความสามารถใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล (file manager) โปรแกรมที่ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น (back and restore) โปรแกรมที่ใช้ในการบีบอัดแฟ้มข้อมูล (file compression) และโปรแกรมที่ใช้ในการจัดพื้นที่ของดิสก์ (disk defragmenter) ดังรูปที่ 1.7
3) โปรแกรมขับอุปกรณ์ หรือดีไวซ์ไดร์ฟเวอร์ (device driver) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการติดตั้งระบบเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อหรือใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ดังรูปที่ 1.8
4) โปรแกรมแปลภาษา เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่แปลโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นรหัสที่อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ ดังรูปที่ 1.9 ตัวอย่างตัวแปลภาษา เช่น ตัวแปลภาษาจาวา ตัวแปลภาษาชี
- ซอร์ฟแวร์ประยุกต์ (application software) หมายถึง ชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามวัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง ซอร์ฟแวร์ประยุกต์อาจเขียนขึ้นโดยใช้โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น เบสิก (basic) ปาสคาล (pascal) โคบอล (cobol) ซี (C) ซีพลัสพลัส (C ++) และวาจา (Java) ซอฟต์แวร์ประยุกต์แบ่งตามกลุ่มการใช้งานได้ดังตารางที่ 1.1
1.2.3. ข้อมูล(date) ข้อมูลจะถูกรวบรวมและป้อนข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผ่านอุปกรณ์ของหน่วยรับเข้า เช่น คีย์บอร์ด และ สแกนเนอร์ (scanner) ข้อมูลต้องมีโครงสร้างในการจัดเก็บที่เป็นระบบเพื่อการสืบค้นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ในหน่วยความจำ (memory unit) ก่อนที่จะถูกย้ายไปเก็บที่หน่วยเก็บข้อมูล (storage unit) เช่น ฮาร์ดดิสก์ และแผ่นซีดี (compact Disc : CD) การป้องกันข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ดังรูปที่ 1.10
1.2.4 บุคลากร (people) บุคลากรเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของระบบสารสนเทศ ในที่นี้หมายถึงบุคคลากรที่เป็นผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ ดังรูปที่ 1.11 บุคคลากรที่เป็นผู้พัฒนาระบบสารสนเทศจะต้องมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาระบบสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพให้สามารถทำงานได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ง่ายและสะดวก ส่วนผู้ใช้ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการใช้งานระบบ สารสนเทศและการสื่อสารต่างๆ ได้อย่างถูกต้องจึงเกิดสารสนเทศที่เป็นประโยชน์
1.2.5 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (procedure) ระบบสารสนเทศต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นลำดับขั้นชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจได้ง่าย และดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ขั้นตอนการบันทึกข้อมูล ขั้นตอนการทำสำเนาข้อมูลขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อข้อมูลได้รับความเสียหาย หรือเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการชำรุดเสียหาย ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ควรได้รับการรวบรวมและจัดทำให้เป็นรูปเล่ม ของคู่มือการใช้งาน ดังรูปที่ 1.12
รูปที่1.12 คู่มือการใช้งาน
องค์กรต่างๆ มีการลงทุนจำนวนมากในการจัดหาระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อนำมาช่วยงานทั้งด้านการบริหารและการจัดการงานทั่วไปขององค์กร โดยเน้นที่คุณภาพของระบบสารสนเทศและความคุ้มค่าในการลงทุน การใช้ระบบสารสนเทศจะเริ่มจากการนำขย้อนมูลป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลข้อมูลเหล่านั้น แล้วจึงส่งผลลัพธ์ออกมาให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้ระบบสารสนเทศจะนำสารสนเทศนั้นไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง หากผลลัพธ์ที่ได้จาการประมวลผลไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ ก็ต้องย้อนมาพิจารณาเริ่มต้นที่ขั้นตอนการป้อนข้อมูลใหม่อีกครั้งว่า ข้อมูลเข้า และขั้นตอนอื่นๆ มีความถูกต้อง สมบรูณ์หรือไม่ ดังรูปที่ 1.13
รูปที่ 1.13 กระบวนการประมวลผลข้อมูล และการใช้สารสนเทศ
ประโยชน์และตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีส่วนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบันมีความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้คนในสังคมมีการติดต่อสื่อสารถึงกันได้ง่ายและรวดเร็ว มีการทำกิจกรรมหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกันง่ายขึ้น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น
1.3.1 ด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารด้านการศึกษา เช่น ระบบการลงทะเบียน และระบบการจัดตารางสอน นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มโอก่สทางด้านการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในด้านการศึกษา ดังรูปที่ 1.14
1. การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ทำให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลหรือไม่สะดวกในการเดินทางสามารถได้รับการศึกษาเช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ในเมือง
2. บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ภาษาต่างประเทศ ทำให้บทเรียนมีความน่าสนใจมากขึ้น และเกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น การแสดงสถาณการณ์จำลอง แบบจำลอง ภาพเคลื่อนไหว แสงสีและเสียงประกอบ นักเรียนสามารถเตรียมตัวก่อนเรียน หรือทบทวนบทเรียนด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้ที่มีเวลาว่าง
3. บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ให้กับผู้พิการทางสายตาหรือหู
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทต่อการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี ทั้งในและนอกสถานศึกษา หน่วยงานต่างๆ ใช้บทเรียนออนไลน์ในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้ความรู้เพิ่มเติม นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตยังเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่ทั้งครูและนักเรียนหรือบุคคลทั่วไป ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลเรื่องต่างๆ ในการทำรายงาน หรือเพื่อศึกษาหาความรู้ เว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูลที่ใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น google.com, ask.com, dogpile.com และ wikipedia.org ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลจากหลักฐานข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
ดังรูปที่ 1.15
เกร็ดน่ารู้
ระบบการลงทะเบียนเรียน
การลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษาสามารถเลือกลงทะเบียนเรียนวิชาต่างๆที่กำหนดไว้ในหลักสูตรได้ โดยสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่า มีวิชาอะไรเปิดสอนบ้าง และการเรียนการสอนเป็นวันอะไรเวลาอะไร วิชานั้นๆมีผู้สมัครเรียนกี่คน เต็มจำนวนที่สามารถรับแล้วหรือไม่ ซึ่งจะทำให้มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้นักศึกษาสามารถรับข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถลงทเบียนเรียนได้อย่างถูกต้อง โดยระบบคอมพิวเตอร์จะทำการตรวจสอบวิชาที่บันทึกแต่ละวิชาว่าติดขัดข้อกำหนดหรือไม่ จากนั้นระบบคอมพิวเตอร์ก็จะทำการพิมพ์รายวิชาที่นักศึกษาลงทะเบียน พร้อมทั้งคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่นักศึกษาต้องจ่ายเป็นค่าลงทะเบียนเรียน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการลงทะเบียนแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อมูลในฐานข้อมูลที่ปรับเปลี่ยนให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอจะทำการการพิมพ์รายงานการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษาในแต่ละวิชา เพื่อแจ้งให้อาจารย์ผู้สอนวิชานั้นๆ ได้ทราบว่าแต่ละวิชามีนักศึกษาผู้ใดลงทะเบียนเรียนบ้าง เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นกี่คน ข้อมูลต่างๆในฐานข้อมูลนี้อาจถูกนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีก เช่น การจัดห้องสอบ การพิมพ์รายชื่อนัดศึกษาเพื่อการกรอกคะแนนและเกรด
- นักศึกษาตรวจสอบวิชาที่เปิดสอน ตารางสอน
- ตรวจสอบวิชาว่าติดขัดข้อกำหนดใดหรือไม่
- พิมพ์รายวิชาที่นักศึกษาลงทะเบียนและคำนวณค่าใช้จ่ายการลงทะเบียน
- พิมพ์รายงานการลงทะเบียนของนักศึกษาในแต่ละวิชา
- ข้อมูลต่างๆ ในฐานข้อมูลนี้อาจถูกนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีก เช่น การจัดห้องสอบ การจัดพิมพ์รายชื่อนักศึกษา เพื่อการกรอกคะแนนและเกรด
1.3.2 ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เริ่มต้งแต่การทำทะเบียนคนไข้ การรักษาพยาบาลทั่วไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆ ได้อย่ารวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังใช้ในห้องทดลอง การศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ รักษาคนไข้ด้วยระบบการรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่านเครือข่ายการสื่อสาร เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ ( EMI scanner ) ถูกนำมาใช้ถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในสมอง เช่น ดูเนื้องอกพยาธิเลือดออกในสมอง และต่อมาได้พัฒนาให้ถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย เรียกชื่อว่า ซีเอที ( CAT-Computerized Axial Tomography scanner: CAT scanner ) ใช้วิธีฉายแสงเป็นจังหวะไปรอบๆ ร่างกายของมนุษย์ ถ่ายเอ็กซเรย์และเครื่องรับแสงเอกซเรย์ที่อยู่ตรงข้ามจะเปลี่ยนแสงเอ็กซเรย์ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าเก็บไว้ในจานแม่เหล็ก จากนั้นจะนำสัญญาณไฟฟ้าเหล่านี้เข้าไปวิเคราะห์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และแสดงผลลัพธ์เป็นภาพทางจอโทรทัศน์หรือพิมพ์ภาพออกมาทางเครื่องพิมพ์ ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมนด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ดังรูปที่ 1.16
1.3.3 ด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม เช่น การจัดทำระบบข้อมูลเพื่อการเกษตรและพยากรณ์ผลผลิตด้านการเกษตร นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม การประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ทำงานบ้าน และหุ่นยนต์เพื่องานอุตสาหกรรมที่ต้องเสี่ยงภัยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรงงาน สารเคมี โรงผลิตและควบคุมการจ่ายไฟฟ้า รวมถึงงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ และโรงงานแบตเตอรี่ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า การส่งสินค้าตามใบสางสินค้า การควบคุมวัสดุคงคลัง และการคิดราคาต้นทุนสินค้า ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในด้านอุตสาหกรรม
ดังรูปที่ 1.17
1.3.4 ด้านการเงินการธนาคารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้ในด้านการเงินและธนาคาร โดยใช้ช่วยงานด้นบัญชี การฝากถอนเงิน โอนเงิน บริการสินเชื่อ แลกเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าวสารการธนาคาร การใช้คอมพิวเตอร์ด้านการเงินการธนาคารที่รู้จักและนิยมใช้กันทั่วไป เช่น บริการฝากถอนเงิน การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
ดังรูปที่ 1.18
ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วต่อการดำเนินธุรกิจต่างๆ
1.3.5 ด้านความมั่นคงมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย เช่น ใช้ในการควบคุมประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวทียมและการคำนวณวิถีการโคจรของจรวดไปสู่อวกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศไทยมีศูนย์ประมวลข่าวสาร มีระบบมีระบบจัดทำระเบียนปืน ทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลเพื่อการสืบสวนคดีต่างๆ ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก้านความมั่นคง
ดังรูปที่ 1.19
1.3.6 ด้านการคมนาคม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ มีกรเชื่อมโยงข้อมูลการจองที่นั่งไปยังทุกสถานี ทำให้สะดวกต่อผู้โดยสาร
การเช็คอินของสายการบิน ได้จัดทำเครื่องมือที่สะดวกต่อลูกค้า ในรูปแบบของการเช็คอินด้วยตนเอง
ดังรูปที่ 1.20
เกร็ดความรู้
ระบบควบคุมไฟจราจร
การควบคุมไฟจราจรด้วยคอมพิวเตอร์จะช่วยให้สัญญาณไฟจราจรตามทางแยกมีการปิดเปิดสัญญาณไฟเขียวอย่างสัมพันธ์กัน เครื่องตรวจสอบสภาพจราจร เป็นเครื่องนับจำนวนรถที่ผ่านไปต่อ 1 หน่วยเวลา ซึ่งอาจใช้ห่วงลวดเหนี่ยวนำฝังไว้ใต้ผิวถนน เมื่อมีรถยนต์วิ่งผ่านจะทำให้การเหนี่ยวนำมีการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนแปลงเป็นสัญญาณส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการวิเคราะห์ แล้วส่งสัญญาณกลับมาควบคุมการปิดเปิดไฟจราจรที่ทางแยกต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะการจราจรในขณะนั้น
เซ็นเซอร์ตามถนนจะเก็บข้อมูลที่เป็นตัวนำเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะประมวลผลข้อมูลที่ได้ออกมาเป็นข้อมูล ( ทิศทางและปริมาณของการจราจร ) ซึ่งจำเป็นต่อการควบคุมสัญญาณไฟจราจร
1.3.7 ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการออกแบบ หรือจำลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยการคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง ตัวอย่างซอฟแวร์การเกิดแผ่นดินไหว
ดังรูปที่ 1.21
1.3.8 ด้านการพาณิชย์ องค์กรในภาคธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการบริหารจัดการ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในการทำงาน ทำให้การประสานงานหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานในองค์กร หรือระหว่างองค์กรเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้าซึ่งเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีขององค์กรต่อลูกค้าทั่วไป สิ่งเหล่านี้นับเป็นการสร้างโอกาสความได้เปรียบแช่งขันให้กับองค์กร ตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในด้านการพาณิชย์ เช่น การให้บริการชำระค่าสินค้าบริการ การสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต และการตรวจสอบราคาสินค้าผ่านเครื่องอ่านราคาสินค้า วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557
Google app for Education , Microsoft app for Education ,Apple app for Education ที่ใช้สำหรับการศึกษา ในประเทศไทยมีกี่แห่งที่ใช้แล้ว..
Google app for Education,Microsoft app for Education, Apple app for Education
Google app for Education
ลักษณะของระบบคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเชื่อมต่อคือสิ่งจำเป็นสิ่งใหม่สำหรับนักศึกษา การศึกษาจำนวนมากในปัจจุบันขึ้นอยู่กับการที่นักศึกษาสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ Google Apps จะพานักศึกษาเข้าใกล้การใช้ชีวิตและความก้าวหน้าในโลกเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ในขณะที่กำลังเป็นนักศึกษาอยู่ที่นี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลังจากที่จบการศึกษาไปแล้วด้วย”
Microsoft app for Education
โปรแกรมจดบันทึกความสามารถสูงที่อยู่ในชุด ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ โปรแกรมเดียวที่สามารถรวบรวมและจัดระเบียบข้อความ รูปภาพ การบันทึกเสียง วิดีโอ และอื่นๆ ไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกันไม่ว่าจะในโหมดออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม รับชมวิดีโอ การใช้ OneNote เพิ่มประสิทธิภาพในห้องเรียน OneNote in Education: Teachers using OneNote in the classroom
Apple app for Education
ฮิตเกมการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับ iPad
ขณะที่สิ้นปีใกล้เข้ามาและกับวันหยุดของโรงเรียนที่ดูเหมือนว่าน่าสนใจที่เราจะแนะนำรายการฮิตที่ดีที่สุดของเกมการศึกษาสำหรับ iPad ที่เพื่อนร่วมงานของเราTeachthoughtที่ใช้ร่วมกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ คอลเลกชันที่สวยงามที่คุณสามารถตรวจสอบในต่อไปนี้ ลิงค์(list.ly) มันอาจจะเป็นที่น่าสนใจให้กับผู้ปกครองและนักการศึกษาที่มี iPad และต้องการที่จะมีบางโปรแกรมการศึกษาในสภาพแวดล้อมในเกม
ในแง่นี้ก็ยังดูเหมือนว่าเหมาะสมที่จะแนะนำการโพสต์ตีพิมพ์โดย การ์เดียนบน ฮิตปพลิเคชันที่ดีที่สุดสำหรับ iPad และ Android (ฮิต) สำหรับเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถไว้วางใจให้กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ความคิดสร้างสรรค์
และในที่สุดเราขอแนะนำโปรแกรมของเราความลับของ Gaudi เป็นโปรแกรมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการอ่านจินตนาการและความเข้าใจในการอ่านของเด็กความลับของ Gaudiช่วยให้คุณสามารถเลือกชื่อของตัวละครเอกในเอกสารเก่าเพื่อให้ผู้อ่านสามารถปรับแต่งการผจญภัยของคุณด้วยชื่อตัวละครที่คุณตัดสินใจว่าอาจจะมีปัญหา นอกจากนี้ยังรวมเกมกิจกรรมดนตรีและภาพประกอบ
ความสนุกสนานและการเรียนรู้มีการรับประกันสำหรับฤดูร้อนนี้ ความลับของ Gaudi!
สถาบันการศึกษามากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศที่ใช้ Google Apps Microsoft app,Apple app
Google Apps For Education เครื่องมือใหม่ในการศีกษาไทย
ตามปกติโดยทั่วไปหลายท่านคงจะรู้จักบริการ Google Apps สำหรับคนทั่วไปและสำหรับนักธุรกิจเท่านั้น ซึ่งบริการ Google Apps นี้เป็นที่นิยมมากในระดับองค์กร แต่ล่าสุด Google ประเทศไทย ได้เริ่มให้บริการ Google Apps สำหรับการศึกษาแล้ว
Google Apps For Education หรือ Google App สำหรับการศึกษา คือชุดของฟรีอีเมลล์จาก Google และเครื่องมือต่างๆ เป็นแบบระบบเปิดในการทำงานร่วมกัน เปิดกว้างสำหรับคุณครู นักเรียนนักศึกษา ชั้นเรียน และสมาชิกในครอบครัวทั่วโลก ตัวอย่างเครื่องมือที่เป็นที่นิยมใช้ที่ท่านรู้จักดี เช่น อีเมล (Gmail), เอกสาร (Docs), ปฏิทิน (Calendar) และ Groups เป็นต้น แต่เครื่องมือเหล่านี้จะใช้สำหรับในการเรียนการศึกษา
เมื่อปี 2011 มีนักศึกษา 16 ล้านคน จาก 146 ประเทศ ได้ใช้ Google Apps for Education แล้ว คุณครูอาจารย์สามารถใช้แอพต่างๆ เช่น Gmail ในการติดต่อสื่อสาร และการเรียนการสอน เช่นเขียนอีเมลแจ้งถึงผู้ปกครองของนักเรียนในภาษาท้องถิ่น หรืออนุญาตให้นักเรียนทำงานกลุ่มได้ในเวลาเดียวกันบนแฟ้มเอกสารเดียวกัน ผ่านทาง google docs และสามารถประชุมงาน และสอนนักเรียนผ่านทาง Google+ ซึ่งการใช้ Google Apps สำหรับการศึกษานี้ สามารถประยุกต์ใช้ในการศึกษาตามโรงเรียนประถมศึกษา ไปจนถึงมหาวิทยาลัยได้ ไม่ว่าจะอยู่ต่างจังหวัดหรืออยู่ต่างประเทศ Google Apps สำหรับการศึกษา ได้มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโฉมองค์กรในด้านนวัตกรรมการศึกษา และการติดต่อสื่อสารในสถาบันการศึกษาต่างๆ ทำให้ครูติดตามนักเรียนอยู่ใกล้ชิดมากขึ้น ได้เรียนรู้ตามหลักสูตร ช่วยลดค่าใช้จ่ายของสถาบันการศึกษาด้วยความเป็นระบบคลาวด์
Google Apps for Education นอกจากจะส่งเสริมให้นักเรียนและคุณครูใช้ประโยชน์ในการศึกษาจากโลกไอทีแล้ว ยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันกับสถาบันต่างๆระหว่างประเทศได้ด้วย
และมาถึงตอนนี้ เริ่มมีสถาบันการศึกษาในไทย ได้เริ่มใช้งาน Google Apps for Education แล้ว โดย Google ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำสามแห่ง โดยเริ่มที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ใช้ Google Apps for Education นี้ สามารถชมตัวอย่างได้ที่ เพจ มหาวิทยาลัยขอนแก่นบน Google+ และจะขยายบริการนี้ไปเรื่อยๆเข้าถึงนักศึกษา รวมกว่า 60,000 คน จาก 3 มหาวิทยาลัย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Apps for Education สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ของApps for Education Center
แบบฝึกหัด
1.จงยกตัวอยางระบบสารสนเทศที่นักศึกษาพบเห็นในชีวิตประจําวันมาอย่างน้อย 5 ระบบ
ตอบ 1.ระบบสารสนเทศนักศึกษา
2.ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี
3.ระบบสารสนเทศเทคโนโลยีการเกษตร
4.ระบบสารสนเทศสำหรับผู้ป่วย
5.ระบบสารสนเทศบุคลากรมหาวิทยาลัย
2. สื่อผสมหรือมัลติมีเดีย คืออะไรเราสามารถนําเอาสื่อผสมไปใชช้ประโยชนน์ด้านใดไดบ้างจงยกตัวอย่างพร้อมอธิบายประกอบ
ตอบ สื่อที่ประกอบด้วยสารสนเทศที่อาจอยู่ในรูปแบบของตัวอักษร ภาพกราฟิก เสียง ภาพนิ่ง รวมถึงภาพเคลื่อนไหวต่างๆ โดยนำมาจัดไว้รวมกันเพื่อให้เกิดความน่าสนใจกับผู้ที่เรียกใช้สื่อ สามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก เช่น การสร้างวิดีทัศน์เพื่อเผยแพร่ทั่วไป เป็นต้น
3. เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร เราสามารถใช้ประโยชนจากเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างไรบ้างจงยกตัวอย่างพรอมอธิบาย
ตอบ การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการ โดยอาศัยเครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้านเครือข่ายโทรคมนาคมและการสื่อสารประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ เราสามารถใช้ได้แทบจะทุกแขนง เช่น ด้านการศึกษาที่ลดปัญหาทางด้านเวลาและระยะทางในการเรียนได้ โดยจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามชุมชนที่อาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่อง มือ ฯลฯ
4. DAISY มีประโยชนอยางไรบางจงอธิบายพอสังเขป
ตอบ digital accessible information system หรือ DAISY เป็นระบบหนังสือที่มีการบันทึกข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบเสียงเพื่อให้ประโยชน์ สำหรับคนตาบอดสามารถอ่านหนังสือได้ โดยสามารถค้นอ่านข้อมูลในหนังสือได้อย่างรวดเร็ว หรือเลือกแบบก้าวกระโดดไปยังส่วนต่างๆของหนังสือได้ เป็นต้น
5. เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจของในหลวงและข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับประเทศไทยคือเครือข่ายใด
หน่วยงานใดที่ดูแลรับผิดชอบเครือข่าย
ตอบ เครือข่ายกาญจนาภิเษกหรือ KPNet จะเกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดจนข้อมูล เกี่ยวกับประเทศไทย ที่ประกอบด้วยงานหลักสองส่วนคือ เครือข่ายพระราชกรณียกกิจและเครือข่ายกระจายความรู้ให้กับประชาชน โดยมีศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือเนคเทคเป็นผู้ ดูแลและรับผิดชอบเครือข่ายนี้
6. จงยกตัวอย่างของการประมวลผลแบบ real time มาอย่างน้อย 1 ตัวอย่างพรอมอธิบาย
ตอบ การฝาก-ถอนเงินสดกับเครื่องให้บริการของธนาคารพาณิชย์ หากลูกค้าทำธุรกรรมนั้นเสร็จสิ้นยอดเงินคงเหลือต่างๆในบัญชีที่มีอยู่จะทำ การปรับปรุงเป็นยอดปัจจุบันทันที
7. Knowledge-based Economy คือรูปแบบของสังคมแบบใด จงอธิบายพรอมทั้งยกตัวอย่าง
ตอบ รูปแบบของสังคมที่มุ่งเน้นให้เกิดภูมิปัญญาหรือความรู้เพื่อใช้ในการ พัฒนาประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจมีความเข้มแข็งที่ยั่งยืน สามารถแข่งขันได้ในเวทีสากล ขณะเดียวกันก็เพื่อให้ประชาชนในสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความเหลื่อมล้ำน้อยที่สุด
8. สาระสําคัญที่อยู่ในกรอบ IT2010 ประกอบด้วยอะไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาครัฐ (e- Government)
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาคอุตสาหกรรม (e-Industry)
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศใน ภาคการพาณิชย์ (e-Commerce)
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาคการศึกษา (e-Education)
การพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศในภาคสังคม (e-Society)
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาคอุตสาหกรรม (e-Industry)
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศใน ภาคการพาณิชย์ (e-Commerce)
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาคการศึกษา (e-Education)
การพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศในภาคสังคม (e-Society)
9. ประโยชน์ของ Geographic Information System มีอะไรบ้าง
ตอบ ช่วยให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลทางภูมิศาสตร์มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถจัดการกำหนดข้อมูลด้านตำแหน่งที่ตั้งบนผิวโลก ที่รวบรวมจากแหล่งต่างๆ ทั้งข้อมูลพื้นที่แผนที่ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายทางดาวเทียม เพื่อนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาผังเมืองประยุกต์ใช้งานทางด้านธรณี วิทยา หรือการพยากรณ์อากาศ เป็นต้น
10. Telemedicine คืออะไร
ตอบ การแพทย์ทางไกล ที่นำเอาความก้าวหน้าทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคมมาประยุกต์ใช้กับงานด้านการ แพทย์โดยตรง โดยใช้การส่งสัญญาณผ่านสื่อโทรคมนาคมอันทันสมัย โดยแพทย์ต้นทางและปลายทางสามารถติดต่อกันได้ด้วยภาพเคลื่อนไหวและเสียง รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลของคนไข้ระหว่างหน่วยงานได้ เช่น ฟิล์มเอกซเรย์และสัญญาณเสียงจากเครื่องมือแพทย์ เช่น การเต้นของหัวใจเสมือนว่าคนไข้อยู่ในห้องเดียวกัน เป็นต้น
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
























